“อีก 3 วันจะถึงงาน แล้วเพิ่งรู้ว่าเสื้อทีมยังไม่ได้สั่ง…”
ถ้าคุณเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ จะเข้าใจเลยว่า “งานด่วน” มันไม่ได้ง่าย
ยิ่งเจอร้านที่รับงานแต่ไม่รับผิดชอบ → งานพังทันที
ในฐานะที่เราผ่านการสั่งงานแบบ “ไทม์บอมบ์” มาแล้ว
นี่คือ วิธีเตรียมตัวและเลือก ‘ร้านสกรีนเสื้อ’ ที่พร้อมวิ่งไปกับคุณ
ไม่ต้องรอลุ้นว่าเสื้อจะมาทันไหม หรือคุณภาพจะเละรึเปล่า
⏰ 1. รู้ Deadline ให้ชัดเจนก่อน
แจ้งร้านไปเลยว่า
- วันไหนต้องใช้จริง?
- มีเวลารอ Mockup หรือไม่?
- ต้องเผื่อเวลาขนส่งกี่วัน?
ยิ่งแจ้งชัด = ยิ่งมีโอกาสสำเร็จ
2. เลือกระบบพิมพ์ให้เร็วที่สุด
สำหรับงานด่วน → หลีกเลี่ยงระบบบล็อกสกรีนเด็ดขาด
แนะนำ 2 ระบบที่เหมาะ:
- DTF / DFT: พิมพ์เร็ว, สีสด, ควบคุมตำแหน่งได้ง่าย
- Flex: ตัดไวนิลมาติดเสื้อ เหมาะกับลายตัวหนังสือ
ทั้ง 2 ระบบนี้ “ไม่ต้องรอทำบล็อก” จึงเริ่มผลิตได้ทันที

️ 3. ส่งไฟล์พร้อมที่สุด
อย่าส่งแค่ภาพแคป ต้องส่ง:
✅ ไฟล์ .AI / .PNG / .PDF ความละเอียด 300 DPI
✅ ระบุขนาดลายชัดเจน (cm)
✅ ตำแหน่งที่จะวางลาย (อก, หลัง, แขน ฯลฯ)
✅ โหมดสี: CMYK (เพื่อความใกล้เคียงจริง)
4. ติดต่อร้านที่ตอบเร็ว + ตอบจริง
ร้านที่รับงานด่วน ต้องมีระบบตอบกลับไว เช่น:
- Line OA
- โทรสายตรง
- ตอบในไม่เกิน 30 นาที
ร้านที่อ่านแล้วหาย อย่าเสี่ยง!
เพราะเวลาในมือคุณไม่มีมากพอให้ “รอคำตอบ”
5. ขอ Mockup ก่อนพิมพ์เสมอ
งานด่วนไม่ควรพลาด
ถึงแม้รีบ ก็ยังควรเห็นภาพ layout ก่อน
ร้านดี ๆ จะส่ง Mockup ให้ดูใน 1–2 ชั่วโมงหลังไฟล์พร้อม
ร้านที่รับงานด่วนแบบมีคุณภาพ?
เราแนะนำ ร้านสกรีนเสื้อ ที่รับทำงานด่วน
พร้อมระบบผลิตแบบ DFT, Flex, DTG และ QC แม้ในเวลาจำกัด
เคยมีเคสลูกค้ารีบมาก สั่งเช้า ได้ของบ่าย 4
เพราะทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมและสื่อสารชัดเจน
ทิปพิเศษสำหรับงานด่วน
- ใช้เสื้อสีอ่อน = พิมพ์ง่ายกว่า
- หลีกเลี่ยงลายมีหลายสีซ้อนกัน
- ถ้าระบบพิมพ์ไม่มีเวลาทำ → เลือกงานปักบางส่วนแทน
สรุป
งานด่วนไม่ควรพัง เพราะเรา “เตรียมตัวผิด”
เลือกให้ดี ตั้งแต่ระบบพิมพ์ ร้านที่คุยรู้เรื่อง และไฟล์ที่ส่งให้พร้อมที่สุด
คุณจะสามารถสั่งเสื้อในเวลา 1–2 วัน โดยที่ยังได้คุณภาพคุ้มค่าสุด
ถ้าเจอร้านดี = คุณได้เสื้อดี
แต่ถ้าเจอร้านมั่ว = คุณอาจพังทั้งงาน